พลังเจ…พลังใจ…กับ แลคตาซอย 3 พลังบุญสูตรเจ

 In Campaign

ให้เทศกาลเจของคุณปีนี้… พิเศษกว่าครั้งไหนๆ… ด้วยการเป็นผู้ให้…
กับ แลคตาซอย 3 พลังบุญสูตรเจ

j2

แลคตาซอย  ต้อนรับเทศกาลกินเจ  ด้วยแคมเปญ “ พลังเจ…พลังใจ…กับ แลคตาซอย 3 พลังบุญสูตรเจ ”  ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทานเจ  เสริมพลังบุญ  สร้างพลังกาย  กับนมถั่วเหลืองแลคตาซอยสูตรเจ   ที่มีให้เลือกดื่มแบบ ถึง 3 รสชาติ ทั้ง ไฮแคลเซียม นมถั่วเหลือง 100% น้ำตาลน้อย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด, งาดำ นมถั่วเหลืองผสมเนื้องาดำธรรมชาติ พร้อมคุณประโยชน์จากวิตามินและแร่ธาตุกว่า 13 ชนิด ที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และนมถั่วเหลืองผสมคุณค่าของผง ชาเขียว แท้ เพิ่มความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าระหว่างวัน…

อีกทั้งท่านยังสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแลคตาซอยในการ ร่วมสมทบทุนมอบเงินบริจาคเพื่อ ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ  มอบให้กับ ศูนย์โรคหัวใจ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย  เเละ คณะแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เพื่อให้โอกาสผู้ป่วยยากไร้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่กำลังรอการรักษาได้รับการรักษาได้กลับมามีชีวิตที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติอีกครั้ง

แลคตาซอย ไฮแคลเซียม

แลคตาซอย ไฮแคลเซียม ทำจากน้ำนมถั่วเหลือง 100% ปริมาณน้ำตาลน้อย อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ และ ผู้มีอาการแพ้นมวัว

ส่วนประกอบ :

น้ำนมถั่วเหลือง 94.68%, น้ำตาล 3.75%,
ไขมันพืช 1.20%, วิตามินและแร่ธาตุ 0.37%

แลคตาซอยกรีนที

แลคตาซอยกรีนที สัมผัสรสชาติใหม่จากนมถั่วเหลืองผสมคุณค่าจากผงชาเขียวแท้ ที่เติมความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าให้คุณในระหว่างวัน พร้อมทั้งได้ประโยชน์จากนมถั่วเหลืองคุณภาพในกล่องเดียว

ส่วนประกอบ : 

น้ำนมถั่วเหลือง 90.4%, น้ำตาล 7.5%
ไขมันพืช 1.6%, ผงชาเขียว 0.5%

แลคตาซอย งาดำธรรมชาติ

พร้อมคุณประโยชน์จากวิตามินและแร่ธาตุกว่า 13 ชนิด ที่เพียงพอต่อความต้องการสารอาหารของร่างกายในแต่ละวัน เพื่อสุขภาพแข็งแรง

ส่วนประกอบ
น้ำนมถั่วเหลือง 91.97% , น้ำตาล 5.50% , งาดำ 1.40%
น้ำมันงา 0.80% , วิตามินและแร่ธาตุ 0.33%

เทศกาลกินเจ

คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานมีความหมายว่า อุโบสถ เดิมหมายความว่า การรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ตามแบบอย่างของชาวพุทธที่รักษาอุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 ที่จะไม่รับประทานอาหารหลังเที่ยงวันไปแล้ว แต่สำหรับพุทธนิกายมหายานนั้น การรักษาอุโบสถศีลจะรวมถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ด้วย เราจึงนิยมเรียกการไม่ทานเนื้อสัตว์รวมไปกับการกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า กินเจ ดังนั้นความหมายของคนกินเจ ไม่เพียงแต่ไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ

การกินเจ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง การถือศีลอย่างญวนและจีนที่ไม่กินของสดคาว แต่บริโภคอาหารประเภทผักที่ไม่มีของสดของคาวผสม ซึ่งมาจากรากศัพท์คำภาษาจีนที่ว่า เจี๊ยะฉ่าย หมายถึง การกินอาหารผัก อาหารที่มาจากพืชผักธรรมชาติ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน และไม่ปรุงด้วยผักฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ และงดเว้นน้ำนมสด นมข้นด้วย เพราะถือว่าเป็นของสดของคาว

ประเพณีกินเจที่ชาวจีนเรียกกันว่า “เก้าอ๊วงเจ” หรือ “กิ้วอ๊วงเจ” แปลว่า “เจเดือน 9″ เริ่มต้นในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน รวม 9 วัน 9 คืน ตรงกับเดือน 11 หรือเดือนตุลาคมของไทย (ตามปฏิทินสากล) โดยคำว่า “เก้าอ๊วง” หรือ “กิ้วอ๊วง” แปลว่า “พระราชา 9 องค์” หรือนพราชา หมายถึงผู้เป็นใหญ่ทั้ง 9 ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีกินผักกินเจ

ในช่วงเทศกาลกินเจ เราจะสังเกตเห็นธงประจำเทศกาล โดยมีพื้นธงเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีที่อนุญาตให้ใช้กับคนสองกลุ่มเท่านั้น คือกลุ่มกษัตริย์ ราชวงศ์ และกลุ่มอาจารย์ปราบผี ดังจะเห็นจากยันต์สีเหลืองตามภาพยนตร์จีน ดังนั้นสีเหลืองจึงเป็นสีของพุทธศาสนา หรือผู้ทรงศีล บนธงจะเขียนตัวอักษรสีแดง อ่านว่า “ไจ” หรือ “เจ” มีความหมายว่า “ของไม่มีคาว เหตุที่ใช้สีแดง เพราะชาวจีนเชื่อว่า เป็นสีมงคล สร้างความเจริญให้แก่ชีวิต

ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตนถือศีลกินเจได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงกินเจ

จุดประสงค์หลักของการกินเจ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคือ

  1. กินเพื่อสุขภาพ เพราะอาหารเจเป็นอาหารชีวจิต เมื่อกินติดต่อกัน จะทำให้ร่างกายสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้ และปรับระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้มีเสถียรภาพ
  2. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากทุก ๆ วัน อาหารที่เรากินประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้ที่มีจิตใจดีงามจึงไม่สามารถกินเนื้อของสัตว์เหล่านั้นได้
  3. กินเพื่อเว้นกรรม เพราะการฆ่าเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าเองก็ตาม เพราะการซื้อผู้อื่นเท่ากับการจ้างฆ่า ถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย ผู้ที่เข้าใจเรี่องกฎแห่งกรรมจึงหยุดกิน หันมารับประทานอาหารเจแทน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ให้อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น …
Recent Posts

Start typing and press Enter to search